ภูมิภาคอาเซียน “คอร์รัปชั่น”
ยังคงเป็นต้นตอของปัญหาต่างๆ
เมื่อวันที่
2 – 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมวิชาการ
และเสนอผลงานวิจัยในการประชุมระดับนานาชาติว่าด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในภาคพื้นยุโรป
หรือ European Association for Southeast Asian Studies (EUROSEAS) ซึ่งเริ่มมีการจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1992 โดยจัดขึ้นทุกๆ
3 ปี และในปีนี้เป็นการจัดการประชุมเป็นครั้งที่ 7 โดยจัดขึ้น ณ นครลิสบอล ประเทศโปรตุเกส ในการจัดครั้งนี้มี The Technical
University of Lisbon โดย the School of Social and
Political Sciences - ISCSP, Lisbon เป็นเจ้าภาพ
การประชุม
EUROSEAS นี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในการประชุมใหญ่
และสำคัญมากของโลก ที่รวบรวมนักวิชาการ นักวิจัย และผู้ทรงคุณวุฒิ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
นักวิชาการที่เป็นชาวยุโรปจากหลากหลายประเทศที่ศึกษาในด้านต่างๆอันเกี่ยวข้องกับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หรือภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนอกจากนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆในทวีปยุโรปแล้ว
ก็ยังเปิดโอกาสให้นักวิชาการจากประเทศต่างๆทั่วโลกที่สนใจในหัวข้ออันเกี่ยวข้องกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาเข้าร่วมประชุมและร่วมนำเสนอผลงานวิจัยของตนเองด้วย
การประชุมทางวิชาการของ
EUROSEA นี้จะจัดขึ้นทุกๆ 3 ปี
โดยมีมหาวิทยาลัยในทวีปยุโรปที่มีความสนใจด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาเป็นเจ้าภาพ
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมลักษณะสหสาขาวิชา หรือ Interdisciplinenary ครอบคลุมทุกสาขาทางสายสังคมศาสตร์ เช่น ประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา สังคมวิทยา การศึกษา สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมท้องถิ่น การเมือง ศิลปะและการละคร วรรณกรรม ปรัชญา สื่อสารมวลชน และ เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น รวมทั้งครอบคลุมการศึกษา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ โดยการประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นทั้งหมด 3 วันและแบ่งหัวข้อที่สำคัญไว้ทั้งหมด 9 กลุ่มหัวข้อ เช่น Democracy and Civil Society, Law and Politics, Migration and Identities และ Spiritual and Religions เป็นต้น นอกจากนี้ในแต่ละกลุ่มหัวข้อยังมี panel แยกย่อยอีก รวมทั้งสิ้น 96 panel มีผลงานวิชาการที่มานำเสนอ รวมๆแล้วประมาณกว่า 300 เรื่อง
สำหรับเรื่องที่นำเสนอภายใต้สาขาต่างๆเหล่านี้ก็มีหลากหลายมาก แต่ในหลาย panel มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาการคอร์รัปชั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสำคัญ บาง panel มีการตั้งหัวข้อเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชั่นในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว บาง panel แม้ไม่ได้ตั้งชื่อ panel ที่เกี่ยวพันกับการคอร์รัปชั่นโดยตรง แต่เมื่อเข้าไปฟังแล้วก็พอสรุปได้ว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศแถบภูมิภาคนี้มีต้นตอมาจากการคอร์รัปชั่นนั่นเอง
ผลงานการนำเสนอในการประชุมบางส่วน
ประเทศอินโดนีเซีย
หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย
ช่วงหลังจากที่ประธานาธิบดีซูฮาโตหมดอำนาจลง ได้มีการจัดตั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น
หรือ Corruption Eradication Commission (Komisi Pemberantasan Korupsi,
KPK) ขึ้นสำนักงานนี้ค่อนข้างทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการนำตัวผู้กระผิดโดยเฉพาะนักการเมืองเข้ารับโทษจากพฤติกรรมการคอร์รัปชั่น
แต่ในระดับท้องถิ่นการปราบปรามคอร์รัปชั่นยังมีปัญหาอยู่มาก
เนื่องจากผู้ที่มีหน้าที่หลักในการปราบปรามคือตำรวจและอัยการของจังหวัดนั้นๆซึ่งส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการคอร์รัปชั่นเช่นกัน
แม้ว่าจะมีการจัดตั้งศาลระดับจังหวัดเพื่อปราบปรามการคอร์รัปชั่นในพื้นที่โดยเฉพาะ
แต่ศาลดังกล่าวดูเหมือนจะยังทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าใดนัก
เนื่องจากศาลในระดับจังหวัดดังกล่าวยังไม่ได้มีการทำงานรวมกันอย่างบูรณาการ
กับสำนักงานระดับจังหวัดของ KPK การแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นในอินโดนีเซียจึงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
ก็หวังแต่เพียงภาคประชาชนที่จะเข้ามามีบทบทในการร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป
นอกจากนี้ยังมีผู้นำเสนอผลงานที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นในวงการตำรวจของอินโดนีเซีย
ระบบตำรวจของอินโดนีเซียมีลักษณะเป็นการรวมศูนย์คล้ายๆกับบ้านเรา
โดยส่วนกลางเป็นผู้ดูแลเรื่องงบประมาณ และแจกจ่ายงบประมาณที่ได้รับไปยังส่วนต่างๆ
และสำนักงานต่างๆทั่วประเทศ
แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นงบประมาณส่วนใหญ่ไปไม่ถึงสำนักงานตำรวจระดับท้องถิ่น
ดังนั้นเพื่อความอยู่รอด
ตำรวจระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่ต้องดิ้นรนหางบประมาณเข้ามาใช้ในการบริหารงานของตนเอง
สาเหตุนี้จึงนำมาซึ่งการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างกว้างขวางในวงการตำรวจของอินโดนีเซีย
ประเทศฟิลิปปินส์
ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน
คือ นาย Benigno Aquino III ซึ่งเป็นลูกชายของนางCorazon
Aquino อดีตประธานาธิบดี ได้รับการยอมรับและยกย่องจากประชาชน และ NGO
หลายกลุ่มในเรื่องความโปร่งใส
รัฐบาลของเขาได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลที่ขาวสะอาดและปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต
นโยบายของ นาย Benigno Aquino นั้นเน้นการตรวจสอบนโยบาย และโครงการที่ได้รับการริเริ่มและดำเนินการโดยรัฐบาลชุดก่อนของ
นาง Gloria Macapagal Arroyo เช่น
โครงการสร้างระบบขนส่งที่เชื่อมต่อเมืองต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ นาย Benigno
Aquino ก็ได้ดำเนินการลงโทษบุคลากรหลายท่านที่ทำงานภายใต้รัฐบาล นาง
Arroyo รวมทั้ง ตัวอดีตประธานาธิบดี Arroyo เอง ในข้อหาคอร์รัปชั่นด้วย
แม้ว่าจะมีความพยายามปราบปรามคอร์รัปชั่นโดยรัฐบาลชุดปัจจุบัน
แต่เป็นที่น่าสนใจว่าเศรษฐกิจและการพัฒนาในด้านต่างๆภายใต้การนำชองรัฐบาล นาย Benigno
อยู่ในระดับที่ย่ำแย่มาก ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมฟิลิปปินส์ยังไม่ได้รับการแก้ไข
เกิดปัญหาการตกงานมากขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีแต่มลพิษโดยเฉพาะในกรุงมานิลา
และปัญหาการขาดประสิทธิภาพของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในประเทศ เป็นต้น
นักวิเคราะห์ และนักวิชาการหลายท่านจึงตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศว่าแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นได้ แต่การพัฒนาประเทศดูจะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และที่สำคัญคือรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ทั้งระบบและทุกภาคส่วนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การตรวจสอบโครงการและนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนเท่านั้น
ประเทศมาเลเซีย
มีผู้นำเสนอบทความได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกตั้ง
และปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศโดยกล่าวว่าในการเลือกตั้งของประเทศมาเลเซียนั้นแม้ว่าพรรคการเมืองใหญ่จะมีความมั่นคงและมีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง
แต่พรรคการเมืองดังกล่าวยังต้องแสวงหาแหล่งทุนเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง
และบริหารพรรค
สถานการณ์ดังกล่าวนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพรรคการเมืองและภาคธุรกิจซึ่งเป็นนายทุนของพรรค
ดังนั้นเมื่อพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งจึงต้องมีการตอบแทนภาคธุรกิจเหล่านั้นโดยการสร้างนโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนดังกล่าว
อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบปัญหาการทุจริตในภาครัฐของประเทศมาเลเซียกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆก็ดูเหมือนว่ายังอยู่ในภาวะที่ดีกว่าประเทศอื่นๆมากนัก
ปัญหาการคอร์รัปชั่นยังคงเป็นปัญหาสำคัญในประเทศอาเซียนหลายๆประเทศ รวมทั้งประเทศไทย และปัญหาดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคสำคัญของการร่วมตัวกันสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมตัวกันทางด้านเศรษฐกิจ หรือ AEC ในปี 2558 นี้ คงต้องรอดูกันต่อไปว่าภาครัฐของประเทศสมาชิกจะมีการดำเนินการร่วมกันอย่างไร เพื่อแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่นร่วมกันไม่ใช่ปล่อยให้เป็นการแก้ปัญหาโดยประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น
Resource from:
ปรับมาจาก
เก็บตกจากการประชุมนานาชาติ
ว่าด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (EUROSEAS) โดย พรรณชฎา ศิริวรรณบุศย์ วันที่ 23
กรกฎาคม พ.ศ. 2556
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น